Description
อาการของโรคงูสวัด
- ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบร้อนบริเวณผิวหนัง หลังจากนั้น 2-3 วัน มีผื่นแดงขึ้นตรงบริเสณที่ปวด แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส ผู้ป่วยบางรายอาจมีไข้ร่วมด้วย ผื่นมักเรียงกันเป็นกลุ่ม หรือเป็น แถวยาวตามแนวเส้นประสาท และจะแตกออกเป็นแผล ต่อมาจะตกสะเก็ด และหายได้เองใน 2 สัปดาห์ และเมื่อแผลหายแล้ว อาจยังมีอาการปวดตามแนวเส้นประสาทได้
การรักษาและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยโรคงูสวัด
- ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันปกติอาจรักษาตามอาการ เช่น รับประทานยาแก้ปวด เนื่องจากสามารถหายได้เอง
- ผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมาก การได้รับประทาน ยาต้านไวรัส เช่น acyclovir ภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการ จะช่วยให้รอยโรคทางผิวหนังหายได้เร็วขึ้นและลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้
- ประคบแผลด้วยน้ำเกลือ ครั้งละประมาณ 10 นาที 3-4 ครั้ง/วัน จะช่วยทำให้แผลแห้งขึ้น\
- ผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน อาจต้องได้รับยา ปฎิชีวนะชนิดทาหรือรับประทานร่วมด้วย
- ถ้ามีอาการปวดหลังการติดเชื้อ สามารถรับประทานยาพาราเซตตามมอลแก้ปวด ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ทันที
- ไม่พ่นหรือทายา เช่นยาพื้นบ้านหรือยาสมุนไพรลงไป บริเวณตุ่มน้ำ เพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลหายช้า และกลายเป็นแผลเป็นได้
การป้องกันการแพร่กระจายของโรคงูสวัด
- การสัมผัสตุ่นน้ำหรือแผลของผู้ป่วยงูสวัดอาจทำให้ผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเกิดเป็นโรคสุกใสได้ ดังนั้นควรแยกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่มห่ม ผ้าเช็ดตัว ที่นอน ของผู้ป่วยโรคงูสวัดกับผู้ที่ยังไมเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน
- ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเป็นโรคงูสวัดแบบแพร่กระจ่าย สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทางการหายใจ ดังนั้นควรแยกผู้ป่วย ไม่ใกล้ชิดกับผู้ที่ไม่เคยเป็นโรค เด็กเล็ก และหญิงตังครรภ์
การป้องกันงูสวัด
- ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดแล้ว โดยสามารถลด โอกาสการเกิดโรคงูสวัด หรือหากว่าเกิดการติดเชื้อจะสามารถลดความรุนแรงของอาการงูสวัดและอาการปวดหลังการติดเชื้อ แนะนำให้ฉีดในผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
แพ็กเกจวัคซีนป้องกันงูสวัด (ZOSTAVAX VACCINE 1 เข็ม) ราคา 5,900 บาท
(ราคานี้รวมค่าแพทย์ ค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว)
หมดเขต 31 ธันวาคม 2565
ติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์อายุกรรม (building 2) floor Gtele.02-530-2556 continue 2010,2020