โรคไข้หวัดใหญ่

  • โรคไข้หวัดใหญ่

  • โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)

    • เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อ Influenza virus เป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย พบได้เกือบทั้งปี แต่จะเป็นมากในช่วงฤดูหนาว ซึ่งบางปีอาจจะพบการระบาดของโลค และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของอาการไข้ที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน
    • แพทย์มักจะให้การวินิจฉัยผู้ป่วยที่มีอาการตัวร้อนมา 2 – 3 วัน
    • โดยไม่มีอาการอย่างอื่นชัดเจนว่าเป็นไข้หวัดใหญ่
    • ซึ่งบางครั้งเชื้ออาจจะลามเข้าปอดทำให้เกิดปอดบวม ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศรีษะ ปวดตามตัว ปวดตมกล้ามเนื้อมาก

    การติดต่อของโรค

    • เชื้อไข้หวัดใหญ่ที่จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อได้ง่ายโดยทางเดินหายใจ จากไอ หรือจาม
    • เชื้อจะเข้าทททางปาก และเยื้อบุตา สัมผัสเสมหะของผู้ป่วยทสงแก้วน้ำ หรือสัมผัสทางมือที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ระยะเวลาที่ติดต่อคนอื่นคือ 1 วันก่อนเกิดอาการ 5 วันหลังจากมีอาการ
    • ในเด็กอาจจะแพร่เชื้อ 6 วัน ก่อนมีอาการ และแพร่เชื้อได้นาน 10 วัน
    • ในการเกิดโรคแต่ละครั้งจะเกิดสายพันธุ์อาจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำให้เกิดการระบาดใหญ่ และมีการเรียกชื่อโรคระบาด

    อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

    • มีอาการไข้สูง ตัวร้อน
    • มีอาการหนาวสั่น
    • มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะบริเวณที่หลังต้นแขน ต้นขา
    • มีอาการปวดศรีษะ อ่อนเพลีย และเบื่ออาหาร
    • มีอาการคัดจมูก มีน้ำมูกใส ๆ
    • มีอาการไอแห้ง ๆ
    • มีอาการจุกแน่นท้อง แต่บางรายอาจไม่มีอาการคัดจมูก หรือเป็นหวัดเลยก็ได้
    • มีข้อสังเกตว่า ไข้หวัดใหญ่มักจะพบอาการของหวัดค่อนข้างน้อย เช่น อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ซึ่งแตกต่างกับไข้หวัดจะพบกับอาการเหล่านี้ได้ค่อนข้างบ่อย
    • มีอาการไข้มักเป็นอยู่ 2 – 4 วัน แล้วค่อย ๆ ลดลง
    • มีอาการไอ และอ่อนเพลียอาจเป็นอยู่ 1 – 4 สัปดาห์ แม้ว่าอาการอื่น ๆ บางรายเมื่อหายจากไข้หวัดใหญ่ แล้วอาจมีอาการเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ เนื่องจากการอักเสบของอวัยวะการทรงตัวในหู้ชั้นใน ซึ่งมักจะหายเองใน 3 – 5 วัน

    ข้อแนะนำในการดูแลรักษา

    โรคนี้ไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรง ส่วนมากให้การดูแลตามอาการ และจะหายเองได้ภายใน 3 – 5 วัน ซึ่งมีวิธีดังนี้

    • ให้นอนพัก ไม่ควรออกกำลังกาย
    • ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ หรือน้ำผลไม้ ดื่มจนปัสสาวะใส ไม่ควรดื่มน้ำเปล่ามากเกิน เพราะอาจจะขาดเกลือแร่
    • รักษาตามอาการ หากมีไข้ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว หากไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้ เช่น ยาพารา เซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี เพราะอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงอื่น ๆ ตามมา
    • หากทานยาแล้วอาการ ไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง
    • ในผู้ที่เจ็บคออาจจะใช้น้ำ 1 แก้วผสมเกลือ 1 ช้อน กลั้วคอ อย่าสั่งน้ำมูกแรง ๆ อาจจะทำให้เชื้อลุกลาม
    • ในช่วงที่มีการระบาดให้หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์สาธารณะ ร่วมกัน เวลาไอ หรือจามต้องใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือปิดปาก และจมูก

    สามารถสอบถามเพื่อเติมได้ที่

    • ศูนย์อายุรกรรม (อาคาร 2) ชั้น G โทร.02-530-2556 ต่อ 2010,2020