ศูนย์เลสิค
ศูนย์เลสิคโรงพยาบาลลาดพร้าว
ศูนย์เลสิคโรงพยาบาลลาดพร้าว
– เราคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดของเราเพื่อดวงตาของคุณ ทั้งเครื่องมือเลสิค LASIK และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมแก้ไขทุกปัญหาสายตาที่เลือกสรรเฉพาะบุคคล เพื่อความเหมาะสมที่สุดกับดวงตาคุณ โดยจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมากด้วยประสบการณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญและความเอาใจใส่ในการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
การแก้ไขสายตาด้วยวิธี เลสิค (Lasik)
– เลสิค เป็นวิวัฒนาการในการแก้ไขสายตาที่ผิดปกติ ทั้งสายตาสั้น สายตายาวตั้งแต่กำเนิด และสายตาเอียงโดยอาศัยเครื่อง Excimer Laser ซึ่งโรงพยาบาลลาดพร้าว พร้อมที่จะให้การผ่าตัดรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์รุ่นที่ 4 (4 Generation Wavefront Laser) ซึ่งให้ความแม่นยำสูงสุดในปัจจุบัน
เลสิค
– เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ) แบบถาวร โดยใช้เครื่องแยกชั้นกระจกตา Microkeratome แยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตาทั้งหมดแล้วใช้ Excimer Laser ขัดเนื้อกระจกตาชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาโดยรวมแล้วจึงปิดผิวกระจกตาเข้าที่เดิม
การเตรียมตัวก่อนมารับการรักษาเลสิค
1) ผู้เข้ารับการตรวจต้องงดใส่คอนแทคเลนส์ ก่อนที่จะมาตรวจ ดังนี้
– คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3วันก่อนตรวจ
– คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Lens) หรือชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 14 วันก่อนตรวจ
ทั้งนี้ คนไข้สามารถใช้แว่นสายตาแทนในระหว่างที่ไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ เหตุผลของการงดใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากคอนแทคเลนส์สัมผัสโดยตรงกับกระจกตา ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ อาจทำให้รูปร่างของกระจกตาเปลี่ยนแปลงได้ และจะต้องใช้เวลาในการกลับคืนรูปร่างตามธรรมชาติ คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งจะมีผลต่อกระจกตามากกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม การวัดสายตาโดยที่ถอดคอนแทคเลนส์มาไม่นานพอ จะได้ค่าการวัดที่ไม่เที่ยงตรง
2) ไม่ควรขับรถเอง เนื่องจากหนึ่งในขั้นตอนการตรวจประเมินสภาพตาเพื่อทำเลสิค (LASIK) มีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งผลของยานี้จะทำให้คนไข้มีอาการดังนี้
– มองเห็นไม่ชัดเจน ภาพเบลอ อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะได้
– มองใกล้ไม่ชัดถึงแม้ใส่แว่น
– สู้แสงจ้าไม่ได้ แนะนำควรนำแว่นกันแดดมาด้วยเพื่อให้สบายตามากขึ้น (ในกรณีที่นัดตรวจในตอนกลางวัน) โดยอาการดังกล่าว จะมีผลเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมง ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้คนไข้ขับรถเอง ในช่วงเวลาที่มีอาการดังกล่าว จึงอาจมีญาติหรือเพื่อนมารับกลับ หรือให้นั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน
3) การหยุดใช้ยาบางประเภท เช่น ยาแก้สิว Roaccutane, Acnotin หรือ Isotane ควรหยุดยาก่อนวันตรวจประเมินสภาพตา ถ้าทำได้ และก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม ถ้าเป็นไปได้ เนื่องจากยาชนิดนี้ส่งผลให้เยื่อบุต่างๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย
4) การใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ หากท่านมีการใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ ใดอยู่ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบในวันตรวจ
5) สุภาพสตรีต้องไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ สุภาพสตรีต้องไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หากคลอดบุตรแล้ว ควรมีประจำเดือนมาปกติอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกัน โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
6) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์หรือวางแผนที่จะทำเลสิค (LASIK) นานเกิน 3 เดือน นับจากวันตรวจสภาพตา ท่านจะต้องเข้ารับการตรวจประเมิณสภาพตาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากในช่วงก่อนการผ่าตัดท่านอาจมีการเปลี่ยนแปลงของสายตาหรืออาจมีโรคตาเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การตรวจซ้ำจะเป้นการยืนยันความสมบูรณ์ของสภาพตาว่าพร้อมที่จะเข้ารับการรักษาเสสิค (LASIK)
7) เวลาที่ใช้ในการตรวจประเมินสภาพตาโดยละเอียดเพื่อรักษาเลสิค (LASIK) ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
8) การให้บริการของศูนย์เลสิครพ.ลาดพร้าว เพื่อความสะดวกของท่าน ขอความกรุณานัดล่วงหน้าที่ call center 081-9077700, 089-2012044 เพื่อที่จะสามารถให้บริการคนไข้ได้อย่างดีที่สุด
ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี เลสิค
– เลสิค เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร
– ใช้เวลาในการผ่าตัดและการพักฟื้นสั้น แผลหายเร็ว
– สามารถมองเห็นได้ทันทีหลังการผ่าตัด
– ไม่ต้องฉีดยาชา เพียงแต่ใช้ยาชาหยอดตา และไม่มีการเย็บแผล
– กลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด
เลสิคกับการเพิ่มคุณภาพชีวิต
– เลสิคเปิดอิสระแห่งการมองเห็น ลดการพึ่งพาแว่นและคอนแทคเลนส์
– เลสิคเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส ทหาร ตำรวจ เป็นต้น
– เลสิคเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแว่นหรือคอนแทคเลนส์
– เลสิคเพิ่มความคล่องตัวในการประกอบกิจกรรม งานอดิเรกหรือกีฬา โดยเฉพาะกีฬาทางน้ำ และกีฬากลางแจ้ง
– เลสิคเสริมสร้างบุคลิกภาพ
ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธีเลสิค
– มีอายุ 18ปี ขึ้นไป และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1ปี
– ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ตาแห้งอย่างรุนแรง และโรคตาอย่างอื่น เช่น จอประสาทตาเสื่อม หรือโรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เช่น โรค
SLE หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการขาดภูมิคุ้มกัน
– ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
– มีความเข้าใจถึงการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิคอย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง
การแก้ไขสายตาด้วยวิธี PRK
– ในคนไข้บางรายที่แพทย์พิจารณาแล้ว สรุปว่าสามารถทำผ่าตัดรักษาสายตาได้โดยที่ไม่มีข้อห้าม แต่มีภาวะบางอย่างซึ่งไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิค (LASIK) แพทย์อาจจะเสนอการผ่าตัดด้วยวิธี PRK แทน
ขั้นตอนการทำ PRK
– PRK เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง) แบบถาวรวิธีหนึ่ง โดยการลอกผิวกระจกตาที่อยู่ด้านนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium) ของกระจกตาออกก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายผิวถลอก แล้วใช้ Excimer Laser ปรับแต่งความโค้งของผิวกระจกตาโดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาก่อนเลสิค หลายสิบปี และยังใช้จนถึงปัจจุบัน
จะทำ PRK ในกรณีใด
– แพทย์จะพิจารณาทำ PRKในคนไข้ที่สายตาสั้น และเอียงไม่เกิน –5.00 D.และกระจกตาบาง
– มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย หรือมี Recurrent Erosion
– มีภาวะตาแห้งกว่าปกติและรักษายาก
– เหตุผลทางอาชีพ เช่น สอบเป็นนักบิน ,สอบเข้าเตรียมทหาร
– ที่เป็นโรคต้อหินในบางราย ซึ่งแพทย์เฉพาะทางต้อหินพิจารณาแล้วว่าสามารถรักษาสายตาผิดปกติได้
– ผู้ที่มีความโค้งกระจกตาผิดรูปไม่เหมาะที่จะแยกชั้นกระจกตา
– การทำเลสิคแบบ PRKจะเป็นการทำเลสิคเพียงวิธีเดียวที่อนุญาต สำหรับผู้ที่จะสอบเป็นนักบิน
ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี PRK
– เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร
– เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กระจกตาบาง
– ช่วยลดภาวะตาแห้งและเป็นทางเลือกของผู้มีน้ำตาน้อย
– มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย
– ไม่ต้องฉีดยาชา เพียงแต่ใช้ยาชาหยอดตา และไม่มีการเย็บแผล
– กลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด
PRK กับการเพิ่มคุณภาพชีวิต
– PRK เปิดอิสระแห่งการมองเห็น ลดการพึ่งพาแว่นและคอนแทคเลนส์
– PRK เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส ทหาร ตำรวจ เป็นต้น
– PRK เพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแว่นหรือคอนแทคเลนส์
– PRK เพิ่มความคล่องตัวในการประกอบกิจกรรม งานอดิเรกหรือกีฬา โดยเฉพาะกีฬา ทางน้ำ และกีฬากลางแจ้ง
– PRK เสริมสร้างบุคลิกภาพ
เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.
สอบถามรายระเอียดได้ที่
ศูนย์เลสิคโรงพยาบาลลาดพร้าว อาคารศูนย์การแพทย์ลาดพร้าวสหคลินิกอาคาร 2 ชั้น 4โทรศัพท์ : 02-530-2556 ต่อ 2450 ,2451
แพ็คเกจประจำศูนย์
เวลาให้บริการ
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.
แพทย์ของเรา
พญ.ฉันทกา สุปิยพันธุ์ (ว.31817)
แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดล)แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค
ข้อมูลแพทย์พญ.ชญานี โพธิวงศาจารย์
แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดล)แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค
ข้อมูลแพทย์พญ.สุธนี สนธิรติ (ว.35432)
แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค
ข้อมูลแพทย์รศ.นพ.อัมพร จงเสรีจิตต์ (ว.14220)
แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาลัยสงขลานครินทร์)แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค
ข้อมูลแพทย์