ศูนย์เลสิค

ศูนย์เลสิคโรงพยาบาลลาดพร้าว

1) เราได้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดของเรา เพื่อดวงตาของคุณรวมถึงทั้งเครื่องมือเลสิค (Lasik) และเทคโนโลยีที่ทันสมัยพร้อมแกไขทุกปัญหาสายตาที่เลือกสรรเฉพาะบุคคล

2) เพื่อความเหมาะสมที่สุดกับดวงตาของคุณ โดยจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมากด้วยประสบการณ์ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ และความเอาใจใส่ในการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

การแก้ไขสายตาด้วยวิธีเลสิค (Lasik)

1) เลสิคเป็นวิวัฒนาการในการแก้ไขสายตาที่ผิดปกติ เช่น สายตาสั้น , สายตายาวตั้งแต่กำเนิด และสายตาเอียง โดยอาศัย (เครื่อง Excimer Laser)

2) โรงพยาบาลลาดพร้าว พร้อมที่จะให้การผ่าตัดรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์รุ่นที่ 4 (4 Geneation Wavefront Laser) ซึ่งให้ความแม่นยำสูงสุดในปัจจุบัน

เลสิค (Lasik)

1) เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาภาวะเรื่องสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น , สายตายาวโดยกำเนิด , สายตาเอียง และสายตายาวตามอายุ เป็นต้น

2) โดยจะมีการใช้เครื่องแยกชั้นกระจกตา ด้วยเครื่อง (Microkeratome) เพื่อช่วยแยกชั้นกระจกตาให้มีความหนาประมาณ 1 ใน 3 ของความหนาของกระจกตา โดยใช้เครื่อง (Excimer Laser) เพื่อขัดเนื้อกระจกชั้นกลาง เพื่อเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาโดยรวม เพื่อปิดผิวกระจกตาเข้าที่เดิม

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาเลสิค

1) ผู้ป่วยที่มาเข้ารับการตรวจ (ผู้ป่วยควรงดใส่คอนเทคเลนส์ ก่อนที่จะมาตรวจ) ดังนี้

1.1) คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนย์อย่างน้อย 3 วันก่อนตรวจ

1.2) คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Lens) หรือชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ อย่างน้อย 14 วันก่อนตรวจ

1.3) คนไข้สามารถใช้แว่นสายตาแทนในระหว่างที่ไม่ได้ใส่คอนแทคเสนส์

1.4) เหตุผลของการงดใส่คอนแทคเลนส์ เนื่องจากคอนแทคเลนส์สัมผัสโดยตรงกับกระจกตา ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ อาจทำให้รูปร่างของกระจกตาเปลี่ยนแปลงได้

1.5) ต้องใช้เวลาในการกลับคืนรูปร่างตามธรรมชาติ คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งจะมีผลต่อกระจกตามากกว่าคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม

1.6) การวัดสายตา โดยที่ถอดคอนแทคเลนส์มาไม่นานพอที่จะได้ค่าการวัดที่ไม่เที่ยงตรง

2) ไม่ควรขับรถเอง เนื่องจากหนึ่งในขั้นตอนการตรวจประเมินสภาพตา เพื่อทำเลสิค (Lasik) มีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งผลของยานี้จะทำให้คนไข้มีอาการ ดังนี้

2.1) มองเห็นไม่ชัดเจน , ภาพเบลอ อาจมีอาการวิงเวียนศีรษะได้

2.2) มองใกล้ไม่ชัดถึงแม้จะใส่แว่น

2.3) สู้แสงจ้าไม่ได้ แนะนำควรนำแว่นกันแดดมาด้วย เพื่อให้สบายตามากขึ้น

2.4) ในกรณีที่นัดตรวจในตอนกลางวัน โดยอาการดังกล่าว จะมีผลเป็น เวลา 4-6 ชั่วโมง ดังนั้น จึงไม่แนะนำให้คนไข้ขับรถเองในช่วงเวลาที่มีอาการดังกล่าว จึงอาจมีญาติ หรือเพื่อนมารับกลับ หรือให้นั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน

3) ในกรณีการหยุดใช้ยาบางประเภท เช่น ยาแก้สิว (Roaccutane) , (Acnotin) หรือ (Lsotane) ควรหยุดใช้ยาก่อนวันตรวจ และประเมินสถาพตา ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือนเต็ม เนื่องจากยาชนิดนี้ส่งผลทำให้เยื่อบุต่างๆ แห้งกว่าปกติ รวมถึงผิวกระจกตาด้วย

4) ในกรณีที่ใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ หากท่านที่มีการใช้ยารักษาโรคประจำตัวอื่นๆ (กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบในวันตรวจ)

5) สุขภาพสตรีต้องไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ สุขภาพสตรีต้องไม่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หากมีการคลอดบุตรแล้วควรมีประจำเดือนมาปกติอย่างน้อย 2 ครั้งติดต่อกัน โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

6) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์ หรือวางแผนที่จะทำเลสิค (Lasik) นานเกิน 3 เดือน

7) นับจากวันตรวจสภาพตาท่านจะต้องเข้ารับการตรวจประเมิณสภาพตาซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากในช่วงก่อนการผ่าตัดท่านอาจมีการเปลี่ยนแปลงของสายตา หรืออาจมีโรคตาเกิดขึ้นได้ ดังนี้

7.1) การตรวจซ้ำจะเป็นการยืนยันความสมบูรณ์ของสภาพตาว่าพร้อมที่จะเข้ารับการรักษาเลสิค (Lasik)

7.2) เวลาที่ใช้ในการตรวจประเมินสภาพตา โดยละเอียดเพื่อรักษาเลสิค (Lasik) ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

8) การใช้บริการของศูนย์เลสิคโรงพยาบาลลาดพร้าว เพื่อความสะดวกของท่าน (ขอความกรุณานัดล่วงหน้าที่ Call Center : 081-0977-700 , 089-201-2044) เพื่อที่จะสามารถให้บริการคนไข้ได้อย่างดีที่สุด

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธีเลสิค

1) เลสิคเป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติอย่างถาวร

2) ใช้เวลาในการผ่าตัด และการพักฟื้นระยะสั้น , แผลหายเร็ว

3) สามารถมองเห็นได้ทันทีหลังการผ่าตัด

4) ไม่ต้องฉีดยาชา เพียงแต่ใช้ยาชาหลอดตา และไม่มีการเย็บแผล

5) กลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด

เลสิคกับการเพิ่มคุณภาพชีวิต

1) เลสิคเปิดอิสระแห่งการมองเห็น ลดการพึ่งพาแว่น และคอนแทคเลนส์

2) เลสิคเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพบางอาชีพ เช่น นักบิน , แอร์โฮสเตส , ทหาร , ตำรวจ เป็นต้น

3) เลสิคเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิต ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับแว่น หรือคอนแทคเลนส์

4) เลสิคเพิ่มความคล่องตัวในการประกอยกิจกรรม เช่น งานอดิเรก , กีฬา , กีฬาทางน้ำ และกีฬากลางแจ้ง

5) เลสิคเสริมสร้างบุคลิกภาพ

ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยวิธีเลสิค

1) มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป และมีสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี

2) ไม่มีโรคของกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้าวย , ตาแห้งอย่างรุนแรง

3) โรคตาอย่างอื่น เช่น จอปนะสาทตาเสื่อม , โรคทางร่างกายที่มีผลต่อการหายของแผล เป็นต้น

(Sle) หรือโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการขาดภูมิคุ้มกัน

1) ไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

2) มีความเข้าใจถึงการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิคอย่างละเอียด และมีความคาดหวังที่ถูกต้อง

การแก้ไขสายตาด้วยวิธี (PRK : Photorefractive Keratectomy)

1) ในคนไข้บางรายที่แพทย์พิจารณาแล้ว สรุปว่าสามารถทำผ่าตัดรักษาสายตาได้ โดยที่ไม่มีข้อห้ามแต่มีภาวะบางอย่าง ซึ่งไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดด้วยวิธีเลสิค (Lasik)

2) แพทย์อาจจะเสนอการผ่าตัดด้วยวิธี (PRK : Photorefractive Keratectomy) แทน

ขั้นตอนการทำ (PRK : Photorefractive Keratectomy)

1) (PRK : Photorefractive Keratectomy) เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาสายตาปกติ เช่น สาตาสั้น , สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียงแบบถาวร

2) การทดลองด้วยผิวกระจกตาที่อยู่ด้านนอกสุด ที่เรียกว่า (Epithelium) ของกระจกตาออกก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายผิวถลอก

3) การใช้ (Excimer Laser) ปรับแต่งความโค้งของผิวกระจกตาโดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาก่อนเลสิคหลายปี และยังใช้จนถึงปัจจุบัน

จะทำ (PRK : Photorefractive Keratectomy) ในกรณีใด?

1) แพทย์จะพิจารณาทำ (PRK : Photorefractive Keratectomy) ในคนไข้ที่สายตาสั้น และเอียงไม่เกิน -5.00 D. และกระจกตาบาง

2) มีประวัติกระจกตาถลอกง่าย หรือมี (Recurrent Erosion)

3) มีภาวะตาแห้งกว่าปกติ และรักษา

4) เหตุผลทางอาชีพ เช่น สอบเป็นนักบิน , สอบเข้าเตรียมทหาร เป็นต้น

5) ที่เป็นโรคต้อหินในบางราย ซึ่งแพทย์เฉพาะทางต้อหินพิจารณาแล้วว่าสามารถรักษาสายตาผิดปกติได้

6) ผู้ที่มีความโค้งกระจกตาผิดรูปไม่เหมาะสมที่จะแยกชั้นกระจกตา

7) การทำเลสิคแบบ (PRK) จะเป็นการทำเลสิคเพียงวิธีเดียวที่อนุญาติ สำหรับผู้ที่จะสอบเป็นนักบิน , ทหาร , ตำราจ

ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี (PRK : Photorefractive Keratectomy)

1) เป็นการรักษาภาวะสายตาผิดปกติอย่าถาวร

2) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กระจกตาบาง

3) ช่วยลดภาวะตาแห้ง และเป็นทางเลือกของผู้ที่มีน้ำตาน้อย

4) มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย

5) ไม่ต้องฉีดยาชา เพียงแต่ใช้ยาชาหยอดตา และไม่มีการเย็บแผล

6) กลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่ตัด

(PRK : Photorefractive Keratectomy) คือ

เป็นวิธีการรัหษาสายตาสั้น , ยาว , เอียงด้วยเลเซอร์ (โดยไม่มีการแยกชั้นกระจกตาแบบเลสิค) จะทำการขูดชั้นผิวบนสุดของกระจกตาที่เรียกว่า (Epithelium) แล้วจึงเจียรผิวกระจกตาด้วยเลเซอร์

ผู้ที่เหมาะทำ (PRK : Photorefractive Keratectomy) แทนการทำเลสิค

1) กระจกตาบาง + สายตาสั้น

2) กระจกตาถลอกง่าย

3) กระจกตาผิดปกติ

4) ตาแห้งกว่าปกติ

5) เป็นการรักษาสายตาที่ดีสำหรับผู้ที่กระจกตาบาง และกระจดตาถลอกง่าย

6) เหตุผลทางวิชาชีพ เช่น นักบิน

หลังทำ (PRK : Photorefractive Keratectomy) จะเคืองตาอย่างน้อย 3 วัน ใช้เวลาในการฟื้นตัวของแผลนาน จึงนิยมน้อยกว่าเลสิค

เปิดทำการทุกวัน (เวลา 08.00-20.00 น.)


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

  • ศูนย์เลสิค (อาคาร 2) ชั้น 4 โทร.02-530-2556 ต่อ 2450,2451

แพ็คเกจประจำศูนย์

ทั้งหมด

เวลาให้บริการ

แพทย์ของเรา

ทั้งหมด

พญ.ฉันทกา สุปิยพันธุ์ (ว.31817)

แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดล)

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค

ข้อมูลแพทย์

พญ.ชญานี โพธิวงศาจารย์

แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดล)

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค

ข้อมูลแพทย์

พญ.สุธนี สนธิรติ (ว.35432)

แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค

ข้อมูลแพทย์

รศ.นพ.อัมพร จงเสรีจิตต์ (ว.14220)

แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ (มหาลัยสงขลานครินทร์)

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาจักษุแพทย์เชี่ยวชาญจอประสาทตา-เลสิค

ข้อมูลแพทย์