ศูนย์ตรวจสุขภาพ

ศูนย์ตรวจสุขภาพโรงพยาบาลลาดพร้าว

เป็นศูนย์ที่ให้บริการตรวจสุขภาพครบวงจร (One Stop Service) ที่มีรายการตรวจหลายประเภท และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย พร้อมให้บริการเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนดังนี้ ตรวจสุขภาพประจำปี , ตรวจสุขภาพก่อนสมรส , ตรวจสุขภาพก่อนทำประกันชีวิต , ตรวจสุขภาพก่อนทำงาน , ตรวจสุขภาพเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ , ตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ เป็นต้น

การเตรียมตัวเข้ารับการตรวจสุขภา (ดังคำแนะนำทั่วไป)

  • 1.การตรวจสุขภาพ โดยการใช้เวลาในการตรวจมากกว่า 2 ชั่วโมง แล้วแต่ละโปรแกรมที่เลือก
  • 2.งดอาหาร และเครื่องดื่มอย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนตรวจสุขภาพ
  • 3.นำบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ก่อนเวลานัดอย่างน้อย 10 นาที
  • 4.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • 5.หากท่านมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพอื่นๆ กรุณานำผลการตรวจรายงานจากแพทย์และยาที่รับประทานอยู่มาด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัย
  • 6.หากท่านกำลังรับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต ท่านสามารถรับประทานต่อได้ตามที่แพทย์แนะนำ
  • 7.กรุณางดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ขั่วโมง ก่อนตรวจสุขภาพ (ในกรณีเข้ารับการเอกซเรย์ หรือการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนตัว)
  • 8.ควรงดอาหาร , น้ำ และเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง ก่อนตรวจสุขพ และต้องงดจนกว่าทำการตรวจเสร็จ (ในกรณีเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย)
  • 9.กรุณานำรองเท้าพละมาด้วย
  • 10.หากท่านจำเป็นต้องรับประทานอาหารก่อนการตรวจ ควรรับประทานอาหารว่างเบาๆ เท่านั้น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน คาเฟอีน และแอลกอฮอล์
  • 11.หากท่านอยู่ในระหว่างรับการรักษาหรือรับประทานยารักษาโรคอยู่ กรุณาแจ้งให้พยาบาลทราบก่อนเข้ารับการตรวจ

คำแนะนำสำหรับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง

  • – เพื่อให้ผลการตรวจที่ชัดเจนที่สุด ตรวจอัลตราซาวด์ซ่องท้องส่วนล่าง ควรดื่มน้ำมากๆ และกลั้นปัสสาวะนาน 1-2 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการตรวจ ในส่วนการอัลตราซาวด์ส่วนบน ควรงดน้ำ และอาหาร 9-10 ชั่วโมง ก่อนมาตรวจ

ก่อนตรวจสุขภาพต้องเตรียมตัวอย่างไร?

  • 1.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ (อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนรับการตรวจสุขภาพ)
  • 2.ควรสวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน
  • 3.ควรงดอาหาร และเครื่องดื่ม (อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนตรวจ ซึ่งสามารถจิบน้ำเปล่าได้เล็กน้อย)
  • 4.ในวันตรวจงดใส่เครื่องประดับต่างๆ (ที่เป็นโลหะ สุขภาพสตรีควรงดใส่ชุดชั้นในเป็นโครงเหล็ก)
  • 5.ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ (อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนตรวจสุขภาพ)
  • 6.สุขภาพสตรีต้องตรวจภายใน (ควรตรวจก่อน หรือหลังมีประจำเดือน 7 วัน)
  • 7.ควรเข้ารับการตรวจในช่วงเช้า (เพื่อไม่ให้ร่างกายอิดโรย เนื่องจากการงดน้ำ และอาหารมากเกินไป)
  • 8.หากมีประจำเดือน ให้กรุณางดตรวจปัสสาวะ (เพราะเลือดจะปนเเปื้อนในปัสสาวะ และกระทบต่อผลการตรวจ)
  • 9.หากกำลังทานยา เพื่อควบคุมความดันโลหิต (สามารถทานต่อได้ตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ควรแจ้งแพทย์ หรือพยาบาลให้ทราบก่อนการตรวจ)
  • 10.หากตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการเอกซเรย์เต้านม (Mammogram) (ควรหลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงมีประจำเดือน เพราะเต้านมจะมีความคัดตึง)
  • 11.หากมีโรคประจำตัว หรือประวัติสุขภาพด้านอื่นๆ (กรุณานำผลการตรวจจากแพทย์มาด้วย เพื่อประกอบการวินิฉัย)
  • 12.กรณีสังสัยว่าตั้งครรภ์ (โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ เพื่องดการตรวจเอกซเรย์)

การตรวจสุขภาพ คือ ?

  • – การป้องกันไม่ให้เกิดโรคในผู้ที่มีความเสี่ยงจะพบได้ในอนาคต ซึ่งผู้ป่วยที่เหมาะสมจะตรวจ คือ ผู้ป่วยที่มีสุขภาพดี , ผู้ป่วยที่สงสัยในการเป็นโรค , ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะพบในอนาคต และต้องการได้รับคำแนะนำ เพื่อปรับเปี่ยนแก้ไข และการป้องกันไม่ให้เกิดโรค รวมไปถึงการตรวจสุขภาพแล้วพบว่ามีไขมันในเลือดสูง , ผู้ป่วยที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรก็จะได้ปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร , ผู้ป่วยที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตันในอนาคต เป็นต้น

ทำไมต้องตรวจสุขภาพ ?

  • – ประชาชนอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และประชาชนอายุน้อยกว่า 50 ปี ควรตรวจทุก 2-3 ปี เพื่อช่วยวิเคราะห์ประเมิน รวมไปถึงการเฝ้าระวังโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ข้อดีของการตรวจสุขภาพประจำปี

  • 1.ช่วยให้ทราบสุขภาวะ และความสมบูรณ์ของร่างกาย จึงส่งผลให้สามารถปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันได้เหมาะสมกับสถานะสุขภาพ
  • 2.ช่วยให้ค้นพบความผิดปกติ หรือโรคต่างๆ ได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยให้คนไข้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที ป้องกันไม่ให้ความผิดปกติลุกลามมากขึ้น
  • 3.ช่วยให้ติดตาม และประเมินสุขภาพของผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • 4.ลดความสูญเสียทั้งด้านสุขอนามัย และด้านการเงิน

การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนตรวจสุขภาพ

  • 1.พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อให้ผลการตรวจแม่นยำ
  • 2.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • 3.งดอาหาร และเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง ในกรณีที่ตรวจหานำ้ตาลในเลือด และไขมันในเลือด
  • 4.หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ใช้ประจำ ให้รับประทานยาตามปกติไม่ต้องงดยา และนำยาที่ใช้มาในวันตรวจสุขภาพด้วย

ประโยชน์ของการตรวจสุขภาพ

  • 1.การตรวจสุขภาพมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะในการค้นหาปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคในอนาคต
  • 2.เพื่อป้องกัน และขจัดปัจจัยเสี่ยงนั้นก่อนที่จะเป็นโรค
  • 3.การรักษาก่อนการเป็นโรคนั้น สามารถทำให้ทดแทนได้ในระยะเริ่มแรก เช่น โรคมะเร็ง
  • 4.ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น การรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง , ผู้ป่วยที่มีไขมันสูง ซึ่งมีผลทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง , ผู้ป่วยที่มีผลให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง และผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเป็นนโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ , ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองร่วมด้วย เป็นต้น
  • 5.กรณีผู้ป่วยรับประทานอาหารรสจัด และไม่ตรงเวลา จึงทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือผู้ป่วยมีการดื่มสุรา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง , ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง , ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งตับ รวมไปถึงการก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เป็นต้น
  • 6.ผู้ป่วยที่ไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหุตของโรคอ้วน ซึงมีผลให้เป็นเบาหนาวไขมันในเลือดสูง
  • 7.กรณีผู้ป่วยที่ขาดวิตามิน และไขมันพอกตับ หรือตับอักเสบรวมถึงโรคมะเร็งตับในอนาคต
  • 8.ผลการตรววจทางห้องปฏิบัติการบางอย่าง เพื่อนำไปสู่การค้นหาปัจจัยเสี่ยง และการป้องกันได้
  • 9.สามารถป้องกันโรคได้ เช่น การเอ็กซเรย์ปอดก่อนเข้าทำงานจะพบว่ามีจุดอักเสบในปอด เมื่อทำการสืบค้นต่อพบว่าเป็นวัณโรคปอด ซึ่งเป็นโรคที่สามารถติดต่อไปสู่คนในครอบครัว และเพื่อร่วมงานได้
  • 10.ทำการตรวจเลือดก่อนแต่งงานพบว่ามีเม็ดเลือดแดงผิดปกติ หรือมีโลหิตจาง
  • 11.ในบางกรณีผู้ป่วยที่เป็นพาหะของโลหิตจางธาลัสซีเมียซึ่ง สามารถถ่ายทอดไปสู่บุตรได้
  • 12.นอกจากนี้ยังมีการตรวจเลือดอาจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคซิฟิลิส , ผู้ป่วยที่เป็นกามโรค HIV เป็นต้น
  • 13.การทำงานของตับที่มีอาการผิดปกติ หรือพบเชื้อไวรัสตับอักเสบ
  • 14.การตรวจอุจจาระ ซึ่งพบว่าเม็ดเลือดแดง เมื่อส่องกล้องทางทวารหนักแล้วพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ถ้าเป็นระยะแรกก็สามารถรักษาหายขาดได้
  • 15.การฉีดวัคซีน หรือยาบางชนิดก็เป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันโรคตามองค์กรควบคุมโรค (CDC) และองค์กรอนามัยโลก (WHO) เช่นกัน
  • 16.การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก และคอตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต และวัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน และวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ , บี , วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
  • 17.การตรวจหาความหนาแน่นของกระดูก (Bone Density) เพื่อดูเรื่องภาวะกระดูกพรุนที่ก่อให้เกิดกระดูกหักได้ในอนาคต
  • 18.การตรวจฮอร์โมนเพศในสตรีวัยทอง (Perimenopause) จะเห็นได้ว่าการตรวจสุขภาพ และมุ่งเน้นในเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดโรค
  • 19.รวมไปถึงการรับคำแนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง หรือพฤติกรรมบริโภค ซึ่งอาจนำมาซึ่งโรคเพื่อการระวังรักษาสุขภาพให้ดีตลอดไป

คำอธิบายรายการตรวจสุขภาพ

  • 1.รายการดังต่อไปนี้เป็นรายการที่มีในแพ็กเกจตรวจสุขภาพของเรา
  • 2.รายละเอียดเหล่านี้จัดทำเพื่อช่วยสร้างความเข้าใจในการตรวจสุขภาพประจำปี และการประเมินสภาวะสุขภาพ กรณีมีผลผิดปกติ
  • 3.ท่านอาจจะต้องทำรายการตรวจที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จึงทำให้เกิดการตรวจซ้ำ เพื่อประเมินปัญหาดังกล่าว
  • 4.ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการตรวจ

หมายเหตุ

  • – รายการเหล่านี้เป็นรายการที่ถูกระบุไว้ในแพ็กเกจการตรวจสุขภาพเท่านั้น ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลลาดพร้าว และให้บริการการตรวจอีกหลายประเภทที่ไม่ได้ระบุไว้ในที่นี้

1.การวัดสัญญาณชีพ และการตรวจร่างกาย เป็นการตรวจค้นหาที่ผิดปกติ ของความดันโลหิต และความผิดปกติที่สามารถค้นพบได้เบื้อต้นจากการตรวจร่างกายของแพทย์ เช่น ทำการอัลตราซาวด์เต้นชีพจร,ตรวจการหายใจ,ตรวจวัดไข้ เป็นต้น

2.การตรวจเลือด

  • – การตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC) เป็นการตรวจเพื่อค้นหาความผิดปกติของส่วนประกอบทั้งหมดของเลือด ได้แก่ เม็ดเลือดแดง , เม็ดเลือดขาว , เกล็ดเลือด เป็นต้น
  • – ทำการตรวจความเข้มข้นของเลือด ซึ่งอาจบ่งบอกถึงงสภาวะความผิดปกติของเลือด , ตรวจภาวะโลหิตจาง หรือภาวะที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • – ทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และน้ำตาสะสม (Hb1C) เป็นการตรวจสำหรับการหาภาวะโรคเบาหวาน และภาวะเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
  • – ทำการตรวจไขมันในเลือดเป็นการตรวจวัดระดับไขมัน , ทำการหาตรวจคอเลสเตอรอล , ทำการตรวจหาไตรกลีเซอร์ไรด์ เพื่อระบุความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • – ทำการตรวจโรคเก๊าท์ (กรดยูริค) เป็นการตรวจวัดเพื่อวัดระดับกรดยูริคในเลือด เพื่อวินิจฉัยโรคของอักเสบเก๊าท์

3.การตรวจการทำงานของไต

  • – BUN (Blood Urea Nitrogen) เป็นการตรวจวัดค่าของเสียในส่วนของระบบเผาผลาญโปรตีน ซึ่งจะบ่งบอกความสามารถในการขับของเสียของไต
  • – Creatinine เป็นการวัดค่าของเสีย การดูดซึม และการขับออกทางไต ซึ่งสามารถบ่งชี้ถึงภาวะการทำงานของไดได้ดี

4.การตรวจการทำงานของตับ

  • – SGOT (AST) and SGPT (ALT) การทดสอบเหล่านี้ตรวจสอบระดับเอนไซม์ตับที่มีอยู่ในเลือดถ้าผลผิดปกติ อาจบ่งบอกภาวะโรคของตับบางอย่าง เช่น ตับอักเสบจากแอลกอฮอล์ หรือไวรัส
  • – Alkaline Phosphatase (ALP) เป็นเอ็นไซม์ตับอักชนิดหนึ่งที่จะบ่งบอกถึงความผิดปกติของตับ , ถุงน้ำดี , กระดูก
  • – Total Bilirubin , Albumin , Globulin เป็นการตรวจที่ใช้ร่วมกันเพื่อบ่งบอกโรคหลายอย่างของตับ เช่น ภาวะตับเหลือง หรือไม่ และโรคที่มีพื้นฐานที่เกี่ยวกับโรคไต
  • – Gamma GT (GGT) เป็นการตรวจที่ดูความผิดปกติของตับ และถุงน้ำดี ซึ่งจะพบได้ในการดื่มแอลกอฮอล์ และการติดเชื้อจากอาการอักเสบ
  • – TSH and Free T4 การทำงานของต่อมไทรอยด์ ซึ่งเป็นการตรวจที่ช่วยบ่งชี้ปัญหาของต่อมไทรอยด์ เช่น ทำงานมากจึงทำให้ผิดปกติ หรือการทำงานน้อยเกินไป
  • – การตรวจไวรัสตับอักเสบบี และซี ซึ่งเป็นการตรวจ เพื่อวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสตับอักเสบซี

5.การตรวจสารบ่งชี้มะเร็ง

  • – การตรวจมะเร็งทางเดินอาหาร (CEA) เป็นการตรวจ เพื่อตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงของมะเร็งทางเดินอาหารจากเลือด ซึ่งผลที่สูงกว่าค่าปกติไม่ได้แสดงถึงการเป็นมะเร็งเสมอไป ควรตรวจเพื่อเติมด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหาร
  • – การตรวจมะเร็ง (AFP) เป็นการตรวจ เพื่อตรวจคัดกรองความเสี่ยงของมะเร็งตับจาดเลทอด ดังนั้น ผลที่สูงกว่าค่าปกติไม่ได้แสดงถึงการเป็นมะเร็งเสมอไป ควรตรวจเพิ่มเติมด้วยการอัลตร้าซาวน์ในช่องท้อง
  • – การตรวจมะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) เป็นการตรวจ เพื่อตรวจคัดกรองหาความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากจากเลือด ดังนั้น ผลที่สูงกว่าค่าปกติไม่ได้แสดงถึงการเป็นมะเร็งเสมอไป

6.การตรวจปัสสาวะ ซึ่งเป็นการตรวจทั่วไปและตรวจวินิจฉยัโรคทางเดินปัสสาวะ และไต เช่น นิ่วในท่อไต,การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น

7.การคตรวจอุจจาระ ซึ่งเป็นการตรวจหาพยาธิ และความผิดปกติในทางเดินอาหาร เช่น การติดเชื้อจากลำไส้,พยาธิ เป็นต้น

8.การทสอบที่เกี่ยวเนื่องกับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)

  • – การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) การทดสอบที่ใช้ในการประเมินผลการทำงานของหัวใจในขณะพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองหาจังหวะหัวใจผิดปกติ และความเสี่ยงของการเกิดหัวใจวาย
  • – การตรวจหัวใจโดยการเดินสายพาน (EST) เป็นการทดสอบการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกายเพื่อหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

9.การตรวจด้วยถ่ายภาพพรังสีวินิจฉัย

  • – เอกซเรย์ปอด (การถ่ายภาพเอกซเรย์ปอดใช้สำหรับดูความผิดปกติในช่องทรวงอก เช่น ขนาดของหัวใจ , โรคต่างๆของปอด และซี่โครงการดัดกรองความเสี่ยงของวัณโรคปอด)
  • – อัลตราซาวด์ช่องท้องทั้งหมด (เป็นการตรวจภายนอกที่มีประสิทธิภาพในการตรวจหาขนาดความผิดปกติของอวัยวะสำคัญภายในช่องท้อง และการใช้ในการดูมดลูกรังไข่ในเพศหญิง และต่อมลูกหมากในเพศชาย)
  • – การตรวจเต้านมด้วยเครื่องดิจิตอลแมมโมแกรม และอัลตราซาวด์ (เป็นการตรวจเพื่อค้นหามะเร็งเต้านม และความผิดปกติอื่นๆ ของเต้านม)

10.การตรวจภายใน ซึ่งเป็นการตรวจหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และโอกาสที่จะเป็นมะเร็งของผู้หญิง อีกทั้ง เป็นการตรวจในอุ้มเชิงกราน เพื่อหาความผิดปกติที่เกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น ช่องคลอด,ปากมดลูก,ท่อน้ำไข่,รังไข่,ปีกมดลูก เป็นต้น

11.การตรวจตา (วัดสายตาทั่วไป และตรวจตาบอดสี) ซึ่งเป็นการตรวจสุขภาพตาทั่วไป และผู้ป่วยที่มีอาการสายตาสั้น,ยาว เป็นต้น


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

  • ศูนย์ตรวจสุขภาพ (อาคาร 3) ชั้น 3 โทร.0 2530 2556 ต่อ 3300,3301

แพ็คเกจประจำศูนย์

ทั้งหมด

แพทย์ของเรา

ทั้งหมด

นพ.ชวลิต วงศ์สุทธิผล

แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาอายุรกรรมทั่วไป, เวชศาสตร์ครอบครัว

ข้อมูลแพทย์

พญ.ภรัณยู สุขะนินทร์

แพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

แพทย์เฉพาะทางด้านสาขาเวชปฏิบัติทั่วไป

ข้อมูลแพทย์